อาจารย์ผม ๑๓ ปี กับ ส.ศิวรักษ์ ความจริง ความดี ความงาม

อาจารย์ผม

๑๓ ปี กับ ส.ศิวรักษ์

ความจริง ความดี ความงาม...กับวาทะกรรมล้มเจ้า

ภาพ สมเกียรติ มีธรรม, ส.ศิวรักษ์, ปรีดา เรืองวิชาธร นักจัดกระบวนการเรียนรู้, พิภพ อุดมอิทธิพงศ์ นักแปล

เรื่องความเป็นศิษย์อาจารย์ระหว่างวัฒนธรรมตะวันตกกับตะวันออกต่างกันมาก ตะวันตก ศิษย์ต้องหาทฤษฏีมาลบล้างอาจาย์ เช่น เพลโต โสกราตีส อริสโตเติล ฯลฯ ตะวันออกศิษย์ต้องเดินตามอาจารย์ ยุคสมัยใหม่มีนอกกรอบบ้าง แต่ความเป็นศิษย์อาจารย์ก็ยังคงอยู่

๑๓ ปีแห่งความทรงจำดีๆ และเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้ผมและอีกหลายๆคนเติบโตบนเส้นทางอันแน่วแน่ คงปฏิเสธไม่ได้ก็คือ สำนัก ส.ศิวรักษ์

ผมเองเข้าไปในสำนักนี้โดยไม่ตั้งใจ แต่ ๑๓ ปีผ่านไปทำให้ผมได้คำตอบที่ไม่ต้องถาม หลังออกจากสำนักนี้ ซึ่งมีแต่เสือแต่สิงห์ที่เติบใหญ่ไปตามเส้นทางของตนเอง แต่สิ่งที่ติดตัวศิษย์สำนักนี้ไปก็คือ ความจริง ความดี ความงาม ที่สำนักนี้มอบให้

แต่สำนักนี้ก็มีคำถามมากมายจากสังคม ถูกกล่าวหา ถูกด่า ว่าไม่เอาสถาบันบ้าง ล้มเจ้าบ้าง จนถูกฟ้องก็มี โดยเฉพาะอย่างยิ่งยุคทหารครองเมือง

คลิปที่อาจารย์พูดถึงพรรคอนาคตใหม่ไม่กี่วันที่ผ่านมา กับที่พูดเมื่อ ๑๐, ๒๐ ปีที่แล้ว ไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย อาจารย์ให้อดทน ปล่อยวาง เคารพความเห็นต่าง ให้อภัยกับคนที่เห็นเราเป็นศัตรู ในบรรดาศิษย์ ส.ศิวรักษ์ คุ้นชินกับคำเหล่านี้ ทุกที่ที่อาจารย์ไปพูด ไปบรรยายที่ไหน หนี้ไม่พ้น 3 เรื่องนี้ ความจริง ความดี ความงาม แม้กระทั่งทุกวันนี้ผมก็ยังนำมาพูดตลอด..555

สิ่งที่สังคมไม่ค่อยรู้และพูดถึงกันน้อยมากก็คือ อาจารย์ให้ความสำคัญกับคนรุ่นใหม่และให้โอกาสกับคนรุ่นใหม่ๆเสมอมา ถ้าคนรุ่นใหม่อยากขีดอยากเขียน อยากทำกิจกรรมอะไร อาจารย์ก็คอยให้คำปรึกษาและสนับสนุนตลอดเวลา ดังนั้นจึงมีคนรุ่นใหม่แวะเวียนเข้าไปหาอาจารย์และทำกิจกรรมด้านต่างๆอยู่เนื่องๆ แม้กระทั้งฝ่ายบริหารของพรรคอนาคตใหม่ หลายคนก็เคยเข้าออกสำนักนี้ สำนักที่สร้างรุ่นใหม่ออกมารับใช้สังคม เวลานี้พูดได้ว่า ลูกศิษย์ลูกหาของส.ศิวรักษ์ และคนที่ผ่านกิจกรรมกับสำนักนี้กระจายอยู่ทุกภาคส่วนของสังคมไทยเลยก็ว่าได้

สิ่งที่คนไทยไม่ค่อยรู้อีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งมีความเข้าใจผิดกันอยู่มาก และมักถูกโจมตีบ่อยๆ เกี่ยวกับเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งๆที่อาจารย์ปรารถนาดีมาโดยตลอด ซึ่งไม่แต่เพียงรุ่นของอาจารย์เท่านั้น นับย้อนขึ้นจนถึงรุ่นพ่อรุ่นแม่ รุ่นตารุ่นยาย สายสัมพันธ์ครอบครัวอาจารย์กับในวังรู้จักมักคุ้นกันตั้งแต่รุ่นโน้น  อาจารย์เองแม้จะเป็นนักเรียนนอกก็จริง แต่เป็นนักเรียนนอกหัวใจไทย ใช้เพียงการแต่งกาย(นุ่งโจงกระเบนใส่เสื้อราชปะแตน)เท่านั้น แม้แต่บ้านก็เป็นบ้านทรงไทย นี้ยังไม่นับรวมความคิดความอ่านและการรักษาไว้ซึ่งศิลปะและวัฒนธรรมไทยอีกหลากหลาย โดยมีศิลปินใหญ่นามอุโฆษณ์อย่างอาจารย์เฟื้อ หริพิทักษ์ ท่านอังคาร กัลยาณพงศ์ ฯลฯ เป็นหัวหอกสำคัญ

เย็นวันหนึ่ง...อาจารย์กับลูกศิษย์นั่งคุยงานพร้อมหน้าพร้อมตากัน เปิดไวน์จิบไปคุยงานไป เสร็จคุยงานก็นั่งจิบไวน์คุยกันต่อ.. ศิษย์สงสัย..ถามอาจารย์ว่าคิดอย่างไรกับสถาบันฯ อาจารย์ตอบว่า เมืองไทยต้องมีสถาบันฯ แต่เราจะช่วยกันให้สถาบันฯอยู่ในทามกลางความเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร...?

ในการดำรงไว้ซึ่งสถาบันฯและการทำความจริงให้ปรากฏ ทำให้อาจารย์ถูกทหารฟ้องในข้อหาผิดมาตรา ๑๑๒ ถึง ๒ ครั้ง ศาลยกฟ้องทั้ง ๒ ครั้งอีกเช่นกัน...และในวันนี้...คราใดที่บ้านเมืองไม่ปกติ อาจารย์ก็มักจะถูกโจมตีเสมอ จากอวิชชาที่เกาะกินกัดกร่อนคนอีกจำนวนไม่น้อย ขันติ อุเบกขา ให้อภัย รับฟัง เคารพความแตกต่างๆ คือสิ่งที่อาจารย์ปฏิบัติมาตลอด

27 มี.ค. ครบรอบ 84 ปี สิ่งที่อาจารย์พูดและกระทำได้สร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นหลังเสมอ

สนใจอ่านเพิ่มเติมได้ในนี้ครับ https://www.the101.world/sulak84/

สมเกียรติ มีธรรม