แม่แจ่มอราบิก้าคอฟฟี่มีเรื่องเล่า


แม่แจ่มอราบิก้าคอฟฟี่มีเรื่องเล่า
Maechaem Arabica Coffee


หลายคนคงไม่รู้ว่า ปีหนึ่งๆ กาแฟแม่แจ่มออกสู่ตลาดมากถึง 201 ตัน หรือ 201,000 กิโลกรัม ถ้าขายกาแฟเชอร์รี่กิโลกรัมละ 18 บาท จะมีเงินเข้าแม่แจ่ม 3.6 ล้านต่อปี ถ้าแปรรูปแล้วขายเป็นกาแฟกะลา กาแฟสาร กาแฟคั่ว กาแฟชงร้อน-เย็น ราคาก็จะขยับขึ้นไปตามลำดับ สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านที่ใช้กาแฟเป็นพืชเบิกนำในการเพิ่มพื้นที่สีเขียว ฟื้นฟูป่า และดูแลป่าไม่น้อย เนื่องจากกาแฟแม่แจ่มโดยมากปลูกกันใต้ร่มไม้ มีหลายรายที่ปลูกในที่โล่ง ปล่อยให้ไม้ถิ่นเดิมขึ้นมาเป็นไม้ร่มเงา ไม่ใส่ปุ๋ยยา ใครที่ถามว่าอินทรีย์ไหม...? แน่นอนครับ กาแฟอินทรีย์ 100%

เสน่ห์กาแฟแม่แจ่มอราบิกาที่ปลูกกระจายไปทั่วตามดอยต่างๆในอำเภอแม่แจ่มอยู่ที่ความแตกต่างของรสชาด กาแฟในแต่ละดอยที่แตกต่างกันไปตามสภาพดินที่มีธาตุอาหารและความสูง ถ้าชิมผ่านๆ ก็จะไม่รู้รสที่แตกต่างเท่าไหร่ พอชิมบ่อยๆ เข้า ก็จะรู้ได้ทันทีว่ารสชาดแบบนี้มาจากดอยไหน เว้นไว้ก็แต่เอากาแฟอราบิก้าจากหลายที่หลายแห่งมาผสมกัน ก็ไม่อาจแยกแยะได้ว่ารสชาติและกลิ่นแบบนี้มาจากดอยไหน


รสชาดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่เฉพาะแห่งนี้เอง ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Maechaem Arabica Coffee ซึ่งเราคัดแยกกาแฟแต่ละดอยออกจากกันเพื่อให้คอกาแฟได้สัมผัสรสชาติแท้ๆ ของกาแฟอราบิก้าแท้ของแต่ละดอยชัดๆ เพียงแค่หลับตาสัมผัสรสชาดกาแฟ ก็ตอบได้ทันทีทันใดว่ามาจากดอยไหน

อันที่จริงผมเองไม่ใช่คอกาแฟระดับพระกาฬ ประดุจดังศิษย์โง่ไปเรียนเซ็นอย่างใดอย่างนั้น ชอบชิมลิ้มลองเรียนรู้ไปเรื่อยๆ ตามประสา อย่าว่าแต่รดชาดกาแฟเลย แม้แต่ศัพท์แสงที่เรียกกันในหมู่นักเลงกาแฟก็ยังไม่คอยเข้าใจ จำผิดๆถูกๆ อย่างเช่นคำว่า cupping กาแฟ มีแต่ภาษาอังกฤษ ต้องไปถามอาจารย์กูเกิล ถ้าอาจารย์กูเกิลแปลออกมาแม่งๆ ไม่ตรงใจ ก็ต้องเปิดดิกชั่นนารีเอาเอง

ศัพท์แสงที่เกี่ยวข้องกับกาแฟ สำหรับนักเลงกาแฟไม่ต้องปวดหัว สื่อสารกันเข้าใจได้ทันที สำหรับผมต้องพลิกตำราหาความหมายจึงจะสื่อสารกับเขารู้เรื่อง ในวันที่เห็นผลการ cupping กาแฟทั้ง 6 แห่งจาก hillkoff มีแต่ภาษาอังกฤษล้วนๆ ผมต้องผลิกตำราหาความหมายจึงรู้ได้ว่า กาแฟแม่แจ่มมีสะกอร่วมอยู่ระหว่าง 80.25 - 83.50 คะแนน ความหอม ภาษาอังกฤษบอกว่า Aroma อยู่ที่ 6.75 - 8.00 ซึ่งนั้นก็หมายความว่า กาแฟแต่ละดอยหอมมากหอมน้อยแตกต่างกันไป แต่คำว่า Aroma ในภาษาอังกฤษน่าจะมีนัยยะมากกว่าภาษาไทย ถึงขั้นหอมติดจมูก หอมลงคอ หอมเย้ายวนใจ หอม..บราๆๆ ขณะที่รสชาดและรสสัมผัสในปากและลำคอ สะกออยู่ระหว่าง 7.25 - เต็ม 10 เรียกว่าระดับพรีเมียมเลยละ..เหมาะกับคอกาแฟและคนที่อยากลิ่มลอง

แต่ก็เถอะ..! เรื่องของรสชาดวัดกันยาก คนหนึ่งชอบคนหนึ่งไม่ชอบก็ได้ บางคนดื่มไม่เป็นก็มี โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนปลูกก็ปลูกกันไป แต่ก็น้อยรายที่คนปลูกมีความรู้เรื่องกาแฟและจำหน่ายเองด้วย นี้เป็นเหตุหนึ่งที่คนปลูกกาแฟต้องรวมกลุ่มกัน อย่างที่ผมบอกครับ คนปลูกกาแฟแม่แจ่มมีเยอะ ผมเดินทางไปสำรวจหลายแห่งเกือบทั่วทั้งแม่แจ่มก็ว่าได้ พบปะพูดคุยกับชาวบ้านที่ปลูกกาแฟเกือบทั่วทั้งแม่แจ่มพบว่า กาแฟแม่แจ่มแม้อยู่ในระดับพรีเมี่ยม แต่ต้องพัฒนาและต่อยอดไปอีกหลายเรื่อง

นับตั้งแต่การดูแลรักษา การแปรรูป และการตลาด เหล่านี้จะยกระดับได้ต้องรวมกันเป็นกลุ่ม เป็นวิสากิจชุมชน(จริงๆ) คือบริหารโดยกลุ่ม ไม่ใช่คนใดคนหนึ่งเป็นหลักจัดการเองทั้งหมด หรือเอาวิสาหกิจบังหน้าค้าขายเลี้ยงตน แต่มีความโปร่งใสทางการเงินที่สมาชิกตรวจสอบได้ กำไรเป็นของกลุ่มไม่ใช่ของตน แบ่งปันผลประโยชน์ในกลุ่มทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน จัดสวัสดิการให้กับสมาชิกทั่วหน้าฯลฯ โดยแนวทางนี้เราจึงทยอยเดินสายจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน ความเข้มแข็งของชุมชนก็วัดกันตรงนี้แหละคับ วัดกันที่ความเข้มแข็งของกลุ่ม ที่จะโยงไปสู่การแก้ไขปัญหาอื่นๆโดยชุมชน

จำได้มั๊ยคับ เมื่อปีพ.ศ.2559 โดยการนำของท่านนายอำเภอทศพล เผื่อนอุดม ผู้นำทุกภาคส่วน ชาวแม่แจ่มทุกคน ร่วมกันแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าจนประสบความสำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ สามารถลดพื้นที่เผาไหม้จาก 6 แสนกว่าไร่ เหลือ 2 แสนกว่าไร่ ลดจุดความร้อนช่วง 60 วันห้ามเผา จาก 384 จุดในปีพ.ศ.2558 เหลือ 30 จุดในปีพ.ศ.2559


ความสำเร็จครั้งนั้น ทำให้อำเภอแม่แจ่มได้รับรางวัลอำเภอดีเด่นจัดการไฟที่ดี เป็นโมเดลที่กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพย์ฯนำไปขยายผลต่อ เป็นแม่แจ่มโมเดลแก้ปัญหาหมอกควันไฟป่า แม่แจ่มที่เคยถูกสังคมพิพากษ์ว่าเผาป่าทำลายป่าเบาบางลงไป กลายเป็นแม่แจ่มสุดยอด แม่แจ่มเข้มแข็ง บราๆ แต่ทว่าพื้นที่เผาไหม้และจุดความร้อนที่เกิดขึ้น ไม่ว่าก่อน ระหว่าง หรือหลังห้ามเผา ไม่เคยเกิดขึ้นในไร่กาแฟ เป็นเพราะอะไรรู้ๆกันคับ ถ้าไฟเข้าก็หมดกัน ไร่กาแฟที่กระจายอยู่ทั่วไปจึงกลายเป็นป้อมปราการสำคัญในการป้องกันไฟป่า ลดปัญหาหมอกควันให้เราได้เป็นอย่างดีและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

แม่แจ่มมีพื้นที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มากที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่ ปีพ.ศ.2559 มีพื้นที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จำนวน 1.2 แสนไร่ ปีพ.ศ.2560 ลดลงมาเหลือ 1 แสนไร่ การลดลงของพื้นที่ปลูกข้าวโพดฯ ก็เนื่องมาจากสภาพดินเสื่อมสภาพ ผลิตตกต่ำ ต้นทุนสูง หลายคนจึงหันมาปลูกพืชอื่นทดแทน เช่นผักทอง ไม้ผล ไม้ยืนต้นอื่นๆ นอกจากนั้น ก็มีกาแฟและไผ่ที่ทีมแม่แจ่มโมเดลพลัสให้การสนับสนุน


หลายพื้นที่ที่เคยปลูกข้าวโพดฯมาก่อนนับ 10 ปี กลายเป็นพื้นที่เขาหัวโล้น วันนี้เราเพิ่มทางเลือกให้กับชาวบ้านหันมาปลูกพืชที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการพังทลายหน้าดิน เพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยกาแฟและไม้ร่มเงา ซึ่งมีทั้งไม้ถิ่นเดิมและไม้ผลที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ปลูกครั้งเดียวเก็บเกี่ยวได้หลายสิบปี โดยมิต้องปลูกใหม่ทุกปี แม่แจ่มอราบิกาคอฟฟี่ ไม่เพียงแต่สร้างรายได้ให้เกษตรกรเท่านั้น แต่ยังเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ป่าต้นน้ำสำคัญของประเทศ ที่ให้น้ำปิงมากถึง 40% และให้น้ำเจ้าพระยามากถึง 16% อีกด้วย

มาถึงตรงนี้ มีคนถามถึงโลโก้ Maechaem Arabica Coffee สื่ออะไร ก็มาจากตำนานเรื่องเล่าปรัมปราในประวัติศาสตร์แม่แจ่ม เรื่องสิงห์สองตัวต่อสู้กันนี้แหละครับ


ตำนานเล่าว่า เมื่อครั้งพระพุทธองค์กับพระมหากัจจายนะจาริกผ่านมาลุ่มน้ำแม่แจ่ม พบสิงห์พี่น้องสองตัวต่อสู้กัน พระพุทธองค์ได้ตรัสถามเหตุแห่งการต่อสู้กัน พอทราบความว่าสิงห์พี่น้องทะเลาะกันเพื่อแย่งชิงความเป็นใหญ่ จึงหันไปตรัสถามพ่อค้าวัวต่างซึ่งอยู่ในที่นั่นด้วยว่า เส้นแบ่งกึ่งกลางระหว่างขุนน้ำกับสบน้ำอยู่ตรงไหน เมื่อทรงทราบเส้นแบ่งกึ่งกลางระหว่างขุนน้ำกับสบน้ำ พระพุทธองค์ทรงยื่นพระหัตถ์พร้อมกับหยิบไม้ขึ้นมาขีดเส้นแบ่งเขตแดน ให้สิงห์ผู้พี่ปกครองเขตแดนด้านเหนือ ผู้น้องปกครองเขตแดนด้านใต้ พร้อมกับมอบพระเกศา 8 เส้นไว้ให้บูชา

ต่อมาสิงห์สองตัวพี่น้องพากันสร้างพระสถูปบรรจุพระเกศาไว้บูชา ณ พระธาตุช่างเคิ่ง ส่วนอุปกรณ์บรรจุพระเกศา นำมาบรรจุไว้ที่พระธาตุทั้ง 4 ทิศ ได้แก่ พระธาตุดอยสะกานบรรจุไม้คาน พระธาตุดอยกู่ใต้บรรจุผอบ พระธาตุดอยฮวกบรรจุกระบอกไม้รวก และพระธาตุดอยกู่บรรจุผ้าขาวห่อผอบ ส่วนรอยขีดเส้นแบ่งเขตแดนปกครองด้านเหนือกับด้านใต้ที่พระพุทธองค์ทรงขีดไว้ ก็คือลำห้วยช่างเคิ่งในปัจจุบันนั่นเอง

และนี้คือ แม่แจ่มอราบิกาคอฟฟี่ Maechaem Arabica coffee
มีจำหน่ายแล้วที่ร้าน "แจ่มจริง" ChaemJing ติดกับเทศบาลแม่แจ่ม
หรือสั่งซื้อได้ไลน์
ID : orphya
Line@ ; http://line.me/ti/p/%40cen7098j





ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สมเกียรติ มีธรรม ฯ ป่าไม้ ที่ดินทำกินและเศรษฐกิจชุมชน ความยั่งยืนของการจัดการไฟป่า

แม่แจ่ม จุดเปลี่ยนแห่งทศวรรษ

ข้อเสนอสีเขียว : แม่วากโมเดล รูปธรรมบูรณาการจัดการดินน้ำป่า สู่การแก้ปัญหาเชิงนโยบาย ภายใต้แม่แจ่มโมเดลและแม่แจ่มโมเดลพลัส