บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กันยายน, 2025

ปฏิรูปผังเมืองไม่ให้ฝังเมือง

รูปภาพ
อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นอำเภอที่มีเนื้อที่มากเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย ในกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ พ.ศ. 2555 พบว่าราว 99.9% เป็นที่ดินประเภทอนุรักษ์ป่าไม้ (สีเขียวอ่อนมีเส้นทแยงสีขาว) มีพื้นที่สีชมพู ซึ่งเป็นที่ดินประเภทชุมชนราว 1.5 ตารางกิโลเมตร เฉพาะเขตเทศบาลเท่านั้น ขณะที่การใช้ที่ดินอำเภอแม่แจ่ม ในที่ดินประเภทอนุรักษ์ป่าไม้ที่ปรากฏในผังเมืองรวมเชียงใหม่ เปลี่ยนไป เป็นเนื้อที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม 382,553 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 22.20 เป็นที่ดินชุมชนและสิ่งปลูกสร้าง 13,778 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 0.80 เป็นแหล่งน้ำ 3,621 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 0.21 เป็นที่ดินเบ็ดเตล็ด 11,151 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 0.65 ที่เหลือเป็นพื้นที่ป่า 1,312,116 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 76.14 นี้ยังไม่รวมเนื้อที่ที่มีประโยชน์หรือคุณค่าในทางศิลปกรรม สถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์หรือโบราณคดี และเนื้อที่ที่มีประโยชน์และคุณค่าทางเศรษฐกิจ จังหวัดเชียงใหม่ทั้งจังหวัดก็เช่นกัน มีที่ดินตามกฎกระทรวงฯผังเมืองเชียงใหม่ 5 ประเภท ได้แก่ ที่ดินประเภทชุมชน(สีชมพู) ที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม(สีเขียว) ที่ดินประเภทอนุรักษ์ชนบทและ...

ปฏิรูป คทช. จัดที่ดินทำกินอาศัยใหม่ให้สิทธิ์

รูปภาพ
คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) มีเป้าหมายในการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าชายเลน ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน ที่ดินสาธารณประโยชน์ ที่ราชพัสดุ ที่ดินสงวนเพื่อกิจการนิคมในนิคมสร้างตนเอง ป่าตามพรบ.ป่าไม้ 2484 เขตป่าไม้ถาวร และที่ดินสหกรณ์ รวมทั้งหมด 12.4 ล้านไร่ มีประชาชนทำกินอาศัย 6.2 แสนราย โดยให้ส่วนงานที่ดูแลแต่ละพื้นที่เป็นเจ้าภาพดำเนินการตามนโยบาย แผนงาน และแนวทาง ที่คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติจัดทำไว้ในความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี การดำเนินงานหลายปีที่ผ่านมา มีประเด็นปัญหาหลากหลายด้านที่ต้องปรับปรุงแก้ไข ให้สอดคล้องกับการใช้ประโยชน์ที่ดินในปัจจุบัน ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงไปมากในทุกพื้นที่ 1.) ประเด็นตัวพรบ.คทช.ที่มีแต่ซูปเปอร์บอร์ด ไม่มีรายละเอียดอื่นใดเหมือนพรบ.อื่น การดำเนินการใดๆภายใต้นโยบายและแผนคทช.ต้องอิงกฎหมาย ระเบียบ มติครม.อื่นที่ล้าหลังทั้งหมด ซึ่งควรหรือต้องยกเลิกด้วยซ้ำ เช่น อิงกับมติครม.30 มิ.ย.41 อิงกับมติครม.ว่าด้วยชั้นคุณภาพลุ่มน้ำ อิงกับพรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ ฯ เป็นต้น 2.) ไม่สามารถบูรณาการข้อมูลกันได้ เนื่องจากการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน 12.4 ล้าน...

ปฏิรูปจัดการภัยพิบัติให้ฉับไว

รูปภาพ
ทุกครั้งที่เกิดภัยพิบัติน้ำท่วมดินถล่ม ฝุ่นควันไฟป่า หรือว่าภัยอื่นๆ ขึ้นมา ผู้ที่ได้รับผลกระทบก่อนใครก็คือประชาชนในพื้นที่ แต่ประเทศนี้ไม่เคยที่จะให้ประชาชนในพื้นที่หรือชุมชน-ท้องถิ่นเข้มแข็ง จัดการภัยพิบัติด้วยตนเองได้เลย ต้องงอมืองอเท้าเข้าไปขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตลอดเวลา แม้ว่าจะอยู่ในนาทีชีวิตก็ตาม 1.กระจายอำนาจให้ท้องถิ่นจัดการภัยพิบัติ การผูกขาดจัดการภัยพิบัติไว้กับภาครัฐแห่งเดียวนั้น หากรัฐมีแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยที่ดี มีระบบเตือนภัยในทุกพื้นที่ แจ้งถึงมือประชาชนได้ทันท่วงที มีเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครที่มีทักษะความรู้ เชี่ยวชาญในการช่วยเหลือ มีเครื่องไม้เครื่องมือพร้อม มีความฉับไวในการเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย และมีการฟื้นฟูอย่างฉับไว ก็คงไม่มีใครว่ากระมั๊ง..? หากแต่ที่ผ่านมารัฐเองผู้ขาดการจัดการภัยพิบัติ หรือพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ “รวมศูนย์อำนาจจัดการภัยพิบัติ”ไว้กับภาครัฐเป็นหลัก ดังจะเห็นได้จากพรบ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 ผู้ที่ได้รับผลกระทบหรือประสบภัยพิบัติโดยตรงไม่เคยมีโอกาสจัดการตนเองแม้แต่น้อย แผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ล้วนถูกกำหนดมาจาก...

ปฏิรูป EIA คุ้มครองสิ่งแวดล้อมและชุมชน

รูปภาพ
การศึกษาและประเมินผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนหรือชุมชน (EIA) ยังคงเป็นประเด็นวิพาษวิจารณ์กันมายาวนาน ล่าสุดโครงการแลนด์บริดจ์ ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริการด้านคมนาคมของไทย ที่มีเป้าหมายเพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน มีการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกทันสมัยที่ชุมพร (ฝั่งอ่าวไทย) และระนอง (ฝั่งอันดามัน) ก่อสร้างทางหลวงพิเศษ ทางรถไฟ และระบบท่อขนส่ง ก็ประสบปัญหากระบวนการทำ EIA เช่นเดียวกัน หรือย้อนหลังไปในปี 2567 EIAร้านลาบ โครงการผันน้ำยวมมาลงเขื่อนภูมิพล ก็ถูกคัดค้านจากประชาชนในพื้นที่ หรือย้อนหลังไป 10 ปีที่แล้ว โครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ มีโครงการสร้างเขื่อนขนานใหญ่ 18 เขื่อน มีทั้งเขื่อนแม่แจ่ม เขื่อนแม่ขาน จ.เชียงใหม่ เขื่อนแก่งเสือเต้น จ.แพร่ เขื่อนแม่วงก์ จ.นครสวรรค์ เขื่อนคลองชุมพู พิษณุโลก ฯ ก็ประสบปัญหาการทำ EIA เช่นเดียวกัน ถึงกับมีการเดินรณรงค์ค้าน EIA โครงการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ ฯ ตราบจนปัจจุบัน การศึกษาและประเมินผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนหรือชุมชน ตามที่รัฐธรรนูญไทยพ.ศ.2560 ม. 58...

ปฏิรูปจัดการน้ำรับมือโลกร้อน

รูปภาพ
1.ความคิดเปลี่ยน จัดการน้ำเปลี่ยน มาถึงวันนี้วิธีคิดวิธีมองการจัดการน้ำต้องเปลี่ยน โดยบทเรียนอดีต(ที่กรมชลฯและรัฐบาลไม่เคยยอมรับความผิดพลาด) จากการเปลี่ยนแปลงสถาพภูมิอากาศของโลกที่ปรากฏชัดขึ้นทุกปี ก็ยังคิดเอาน้ำมาใช้โดยไม่ดูแลรักษาระบบนิเวศ วิธีคิดจัดการน้ำมหาภาคที่เอาความต้องการใช้น้ำเป็นตัวตั้ง ดังเช่นที่ปรากฏในแผนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปีใช้ไม่ได้อีกต่อไป แต่งบประมาณล่อใจ ต้องการงาบกัน จึงต้องผลักดันเม็กโปรเจ็คออกมาโดยไม่สนใจว่าป่าจะฉิบหายอย่างไร ละเมิดสิทธิชุมชนมากน้อยแค่ไหน คุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่..ฯลฯ ไม่สน กรณีเขื่อนอ่างมากมายที่ปรากฏในแผนน้ำ 20 ปี เชื่อมโยงโครงข่ายน้ำ อาคารบังคับน้ำ บ่อบาดาล ปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาคสาขา ถ้าขหมวดมาเฉพาะช่วง 3 ปี ตั้งแต่ปีพ.ศ.2565-67 มีแผนพัฒนาทรัพยากรน้ำที่เข็ญออกมารวมกันมากถึง 543 โครงการ คิดเป็นวงงบประมาณ 9.94 แสนล้านบาทแล้ว หนึ่งในโครงการสำคัญที่ถูกชาวบ้านด่ากันในวันนี้ก็คือ ผันน้ำเติมเขื่อนแก่ๆที่จะหมดอายุการใช้งาน เช่นเขื่อนภูมิพล หรือที่จะก่อสร้างใหม่เช่นเขื่อนน้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ เขื่อนวังหีบ เขื่อนคลองสังข์ จ.นครศรีธรรมราช...

ปฏิรูปคณะสงฆ์ไทยสู่เป้าหมายศาสนทายาท

รูปภาพ
ผลสำรวจจากนิด้าโพลช่วงวันที่ 14 - 16 กรกฎาคม 2568 ถาม“ความคิดเห็นประชาชนเกี่ยวกับสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นกับพระพุทธศาสนาในปัจจุบัน” มี 16 คำตอบ พอจำแนกออกมาได้ 3 ประเด็นใหญ่ๆ ด้วยกันคือ พระสงฆ์ การบริหารปกครองคณะสงฆ์ และสังคม ทั้ง 3 ประเด็นนี้ มีประชาชนตอบปัญหาพระสงฆ์มากสุด เช่น พระสงฆ์ตัดขาดทางโลกไม่ได้ทำให้มีข่าวฉาว เช่น เสพยาบ้า ดื่มสุรา เล่นการพนัน มั่วสีกา หลงใหลในลาภยศสรรเสริญและตำแหน่ง หลงในวัตถุนิยมบริโภคนิยม ใช้ผ้าเหลืองเป็นช่องทางสร้างรายได้ ไม่อยู่ในหลักธรรมวิจัย ก้าวร้าว หลงตัวเอง ชอบโฆษณาอภินิหารเกินจริง บิดเบือนคำสอน เน้นพิธีกรรมไสยศาสตร์ ชอบยุ่งการเมืองและเลือกข้าง ในด้านการบริหารปกครองคณะสงฆ์ ประชาชนตอบว่า วัดบางแห่งมีการบริหารจัดการทรัพย์สินไม่โปร่งใส ความเป็นพุทธพาณิชย์ องค์กรที่ดูแลคณะสงฆ์อ่อนแอและขาดประสิทธิภาพในการตรวจสอบป้องกัน การปกครองในวัดไม่มีประสิทธิภาพ วัดบางแห่งโฆษณาชวนเชื่อให้คนทำบุญเกินตัวเกินเหตุจำเป็น ขณะที่ประเด็นทางสังคม ประชาชาชนตอบว่า ญาติโยมและลูกศิษย์จำนวนหนึ่ง ชอบชักนำให้พระสงฆ์ประพฤติหรือทำกิจกรรมผิดพระธรรมวินัย ทั้ง 3 ประเด็นข้างต้น เป็นสาเหตุ...

ปฏิรูประบบราชการให้จิ๋วแต่แจ๋ว

รูปภาพ
เมื่อกลางเดือนมิถุนายน 2568 หลายท่านคงจะได้ข่าวประเทศเวียดนามปฏิรูประบบราชการครั้งใหญ่ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป มีการยุบหน่วยงานในระดับอำเภอ เลิกจ้างข้าราชการ 7.9 หมื่นตำแหน่ง และออกกฎหมายครู กฎหมายการจ้างงานฉบับปรับปรุงใหม่ แก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการโฆษณา ร่างกฎหมายยกเว้นค่าเล่าเรียนทุกระดับชั้น รวมถึงขยายการศึกษาปฐมวัยเด็กอายุ 3-5 ปี โดยมีเป้าหมายเป็น“ประเทศรายได้ปานกลาง”ภายในปี 2030 1. ย้อนรอยปฏิรูประบบราชการไทย สำหรับประเทศไทย การปฏิรูประบบราชการมีความพยายามทำกันมาต่อเนื่อง ย้อนไปสมัยอยุธยาเลยก็ว่าได้ ในเวลานั้น มีการจัดรูปแบบปกครองใหม่ให้มีกรมกลาโหม กรมมหาดไทย และหัวเมืองเอก-หัวเมืองโท มาในรัฐสมัยรัชกาลที่ 5 แบ่งราชการออกเป็นส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น มีการตั้งกระทรวงต่างๆขึ้นมาบริหารแผ่นดิน 12 กระทรวง พอในปีพ.ศ.2476 แบ่งการบริหารราชการออกเป็นส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น นับจากนั้นมาร่วม 75 ปี ทุกรัฐบาลที่ขึ้นมาบริหารประเทศ ทำกันเพียงแบ่งส่วนราชการ จัดอัตราข้าราชการ ปรับปรุงแก้ไขระเบียบปฏิบัติราชการพลเรือน ปรับปรุงการบริหารงาน และงบประมาณ เท่านั้น กระทั่งปีพ...